วัดที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโจโดที่โดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งเบียวโดอินถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 998 เป็นบ้านพักตากอากาศในชนบทของนักการเมืองที่มีมีอิทธิพล ฟูจิวะระ โนะ มิชินากะ และปรับปรุงวัดในปี 1053 โดยสร้างห้องโถงฟินิซ์ที่เป็นสัญลักณ์ของเหรียญ 10 เยน
นาโกย่าเป็นเมืองเอกของจังหวัดไอจิ ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างโตเกียวกับโอซาก้า ทำให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและอุตสาหกรรมที่สำคัญของภูมิภาคชูบุ เมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น “บ้านของโตโยต้า” เพราะมีโรงงานและพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์จำนวนมาก
ในด้านการท่องเที่ยว นาโกย่ามีทั้งสถานที่ประวัติศาสตร์และจุดท่องเที่ยวสมัยใหม่ให้เลือกชม ปราสาทนาโกย่าคือสัญลักษณ์ของเมือง หลังคาประดับปลาชทอง “ชะจิโฮโกะ” อันโด่งดัง ศาลเจ้าอัตสึตะก็เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวต้องมาเพื่อสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิม
ย่านซาคาเอะคึกคักไปด้วยห้างสรรพสินค้าและแลนด์มาร์กอย่าง Oasis 21 และหอคอยทีวีเมืองนาโกย่า เหมาะแก่การชมวิวตอนกลางคืน ส่วนย่านโอซุเหมาะสำหรับเดินเล่น ช้อปปิ้งของมือสอง และชิมขนมพื้นเมือง
อาหารประจำถิ่นที่เรียกว่า “นาโกย่าเมชิ” ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่าง เช่น ข้าวหน้าเทมปุระฮิทสึมาบุชิ มิโสะคัตสึ และปีกไก่ทอดเทบะซากิ ทำให้เมืองนี้ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยที่เที่ยว แต่ยังเต็มไปด้วยรสชาติที่ต้องลอง
นาโกย่าเป็นเมืองเอกของจังหวัดไอจิ ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างโตเกียวกับโอซาก้า ทำให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและอุตสาหกรรมที่สำคัญของภูมิภาคชูบุ เมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น “บ้านของโตโยต้า” เพราะมีโรงงานและพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์จำนวนมาก
ในด้านการท่องเที่ยว นาโกย่ามีทั้งสถานที่ประวัติศาสตร์และจุดท่องเที่ยวสมัยใหม่ให้เลือกชม ปราสาทนาโกย่าคือสัญลักษณ์ของเมือง หลังคาประดับปลาชทอง “ชะจิโฮโกะ” อันโด่งดัง ศาลเจ้าอัตสึตะก็เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวต้องมาเพื่อสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิม
ย่านซาคาเอะคึกคักไปด้วยห้างสรรพสินค้าและแลนด์มาร์กอย่าง Oasis 21 และหอคอยทีวีเมืองนาโกย่า เหมาะแก่การชมวิวตอนกลางคืน ส่วนย่านโอซุเหมาะสำหรับเดินเล่น ช้อปปิ้งของมือสอง และชิมขนมพื้นเมือง
อาหารประจำถิ่นที่เรียกว่า “นาโกย่าเมชิ” ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่าง เช่น ข้าวหน้าเทมปุระฮิทสึมาบุชิ มิโสะคัตสึ และปีกไก่ทอดเทบะซากิ ทำให้เมืองนี้ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยที่เที่ยว แต่ยังเต็มไปด้วยรสชาติที่ต้องลอง
ปราสาทมัตสึโมโตะ เป็น 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และสวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็น 1 ใน 5 ปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติ เป็นปราสาทที่สร้างอยู่บนพื้นที่ราบ มีเอกลักษณ์ตรงที่มีหอคอยและป้อมปืนเชื่อมต่อกับโครงสร้างอาคารหลัก และเนื่องจากผนังปราสาทมีสีดำและปีกด้านต่างๆ ของปราสาทแผ่กางออกเหมือนปีกนก เลยมีชื่อเรียกว่า คาราซุโจ ที่แปลว่า ปราสาทอีกา สำหรับข้างในตัวปราสาทมีขั้นบันไดสูงชันและเพดานที่ไม่สูงมาก บริเวณทางเดินจัดแสดงวัสดุเครื่องใช้ทางประวัติศาสตร์ เช่น ชุดเกราะซามูไรสมัยเซ็นโกกุ, ปืนคาบศิลาและอาวุธที่เคยใช้สู้รบในสมัยก่อน หน้าต่างเป็นหน้าต่างไม้แคบๆ มีช่องสำหรับยิงปืนและยิงลูกธนู ท่านสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นและเมืองมัตสึโมโตะได้จากชั้นบนสุดของปราสาทแห่งนี้